ผิวผสม สุขภาพดีที่มีความชุ่มชื้นน้ำในผิวอยู่ในสภาวะสมดุล

ผิวผสม

ผิวผสม ก่อนรู้วิธีสำหรับดูแลผิวผสม ควรจะเริ่มจากการรู้จักสุขภาพดีที่มีความชุ่มชื้นน้ำในผิวอยุ่ในสภาวะสมดุลผิวหน้าของตัวเองซะก่อนว่าเป็นผิวผสมหรือผิวชนิดอื่นๆเหตุเพราะผิวแต่ละแบบจะมีวิธีการดูแลผิวที่นาๆประการ แม้กระนั้นจะทราบได้ยังไงว่าตัวเองมีภาวะผิวหน้าแบบไหนการล้างหน้าล้างตาให้สะอาดอยู่เป็นประจำ เป็นเสมือนการปรับให้ผิวสมดุลด้วยการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป โดยการล้างหน้าล้างตาที่ถูกควรจะล้างหน้าล้างตาวันละ 2 ครั้งต่อวัน ไม่น้อยหรือมากมายไปกว่านี้ ปกป้องการสั่งสมของสิ่งสกปรกรวมทั้งความมันบนบริเวณใบหน้า และไม่ทำให้ผิวแห้งจากกระบวนการทำความสะอาดเยอะเกินไปส่วนการเลือกสินค้าสำหรับชำระล้างผิวหน้า ควรจะเลือกสินค้าที่สุภาพ เน้นย้ำไปที่การเพิ่มความชื้นให้ผิว เพราะเหตุว่าสูตรกำจัดความมันมักมีสารเคมีที่อาจทำให้มีการระคาย ถ้าใช้บ่อยๆผิวหน้าในรอบๆที่แห้งจะยิ่งหยาบ ตึง ลอก แล้วก็เคืองได้มากกว่าเดิมการคุ้มครองป้องกันหน้ามันหรือหน้าแห้งเกินความจำเป็นในคนที่มีผิวผสมนั้นค่อนข้างจะยาก ด้วยเหตุว่าปัจจัยสำคัญของอาการจะเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ การคุ้มครองก็เลยย้ำไปที่การหลีกเลี่ยงต้นสายปลายเหตุอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุ้มครองป้องกันไม่ให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนในเลือดเยอะขึ้นซึ่งการคุ้มครองสามารถทำให้โดยคลายเครียด งดเว้นดูดบุหรี่ ล้างหน้าล้างตาให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง กินน้ำให้พอเพียงกับที่ร่างกายปรารถนา แล้วก็ทาสินค้าเพื่อการบำรุงผิวพรรณให้เหมาะสมกับภาวะผิว เพียงเท่านี้ก็สามารถคุ้มครองป้องกันหน้ามันหรือแห้งเหลือเกินในคนที่มีผิวผสมได้แล้วแม้ว่าจะถูกระบุด้วยกรรมพันธุ์ แต่ว่าภาวะผิวนั้นเปลี่ยนได้ตลอดระยะเวลา จากอีกทั้งสิ่งแวดล้อม ผิวสองสี ปัจจัยภายในร่างกาย ช่วงอายุ หรือการกระทำการใช้ชีวิตแล้วก็การดูแลรักษาผิว ฉะนั้นผิวผสมถ้าเกิดผ่านการดูแลรักษาและบำรุงผิวที่ถูกทางก็สามารถกลับมาเป็นผิวที่ธรรมดาได้เหมือนกัน แต่ว่าแม้ขาดการดูแลรักษาและบำรุงผิวก็จะกลับไปเป็นผิวผสมแบบเดิมเมื่อพินิจผิวหน้าตัวเอง ผู้คนจำนวนมากพบว่าเล็กน้อยของบริเวณใบหน้ามันมากมาย เมื่อใช้มือสัมผัสจะรู้สึกลื่น มีน้ำมันติดมือขึ้นมา แต่ว่าในเวลาเดียวกัน หน้าอีกส่วนใดส่วนหนึ่งก็แห้ง ไม่มีน้ำมัน ไม่เปียกชื้น เมื่อสัมผัสจะรู้สึกตึงรวมทั้งหยาบเป็นจำพวกของผิวที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศแถบร้อน อย่างเมืองไทย แล้วผู้ที่มี ผิวผสม ก็ชอบปราชัยกับการจัดการกับภาวะผิวที่มีทั้งยัง รอบๆที่แห้ง และก็ มัน โน่นก็เพราะว่าผิวรอบๆศูนย์กลาง อาทิเช่น หน้าผาก จมูก คาง มีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่ารอบๆอื่นๆของหน้า รอบๆที่มันๆกลุ่มนี้ถึงกำเนิดสิวได้ง่ายอย่างยิ่งกว่ารอบๆอื่น ในเวลาเดียวกัน รอบๆที่มีต่อมไขมันน้อยกว่า ดังเช่น รอบดวงตา ข้างแก้ม ก็ชอบแห้ง หรือ ผิวลอกเป็นเกล็ดบ้างการทราบภาวะผิวหน้าตนเอง จะช่วยทำให้พวกเราดูแลผิวได้อย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าในบรรดาผิวทั้งผอง ก็มีผิว 2 แบบร่วมกัน ที่สร้างความสับสน แบ่งออกได้ยากมากมาย ซึ่งก็คือ ผิวมันกับผิวผสม คนอีกหลายๆคนบางทีอาจสงสัยว่า อันที่จริงแล้ว พวกเรากำลังจะมีผิวมันหรือผิวผสมอยู่กันแน่

ผิวผสม

ผิวผสม ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ผิวทำให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรงตึงกระชับ

  1. ข้างหลังล้างหน้าล้างตาราว 1-2 ชั่วโมง ก็เริ่มแรงตึงกระชับมีความมันตามบริเวณใบหน้าแล้ว
  2. ในตอนกลางวัน ผิวจะมันย่องอย่างพินิจได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอน T-Zone (รอบๆหน้าผาก จมูก รวมทั้งคาง)
  3. หากคุณเป็นผู้ที่แต่งหน้าทาปากเสมอๆ พอเพียงถึงตอนกลางวัน เครื่องแต่งตัวจะเริ่มลางเลือนๆเนื่องจากว่าความมันบนผิวหน้านั่นเอง ที่ลบเครื่องแต่งหน้าพวกนั้นให้จางลง
  4. มีรูขุมขนกว้าง
  5. เป็นสิวอยู่เสมอๆเพราะเหตุว่าความมันบนผิวหน้าที่มากเหลือเกิน ทำให้บางครั้งบางคราวก็ตันรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวขึ้น

ผิวผสม สามารถส่งผลต่อสภาพผิวหน้าโดยรวม

  1. เนื่องจากว่าผิวมีภาวะทั้งยังผิวแห้งรวมทั้งผิวมัน เลยจำเป็นต้องให้การดูแลที่แตกต่างในแต่ละจุด
  2. ในตอน T-Zone ที่มีความมันสามารถส่งผลต่อสภาพผิวหน้าโดยรวม ให้เลือกใช้สินค้าแบบ oil-free และก็เนื้อครีมบางเบา
  3. ในตอนผิวที่แห้ง ให้ใช้สรับประทานห่วงใยหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อปกติทาเพื่อเพิ่มความชื้น
  4. หลบหลีกการใช้โทนเนอร์ในส่วนที่ผิวแห้ง
  5. ใช้สินค้าล้างหน้าล้างตาแบบสุภาพ เพื่อคุ้มครองป้องกันปัญหาผิวเคือง และก็มันย่องกว่าธรรมดา

ผิวผสม ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของSodium

ผิวผสมนั้นซึ่งก็คือคุณมีภาวะผิวแต่ละจุดบนบริเวณใบหน้าควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผสมของSodiumจำพวกหรือมากยิ่งกว่านั้นผสมกัน ผิวของคุณอาจจะแห้งแตกเพียงแค่รอบๆนิดหน่อยของบริเวณใบหน้า และก็คุณอาจจะมีผิวมันตรงรอบๆคราวโซน (T-zone) นั่นก็คือรอบๆกลางบริเวณใบหน้า จมูก คาง รวมทั้งหน้าผาก คุณอาจจะมีผิวผสมถ้าหากคุณมีปัญหาผิวอื่นๆอย่างเช่น ริ้วรอย สิวอักเสบ หรือเป็นโรคสิวหน้าแดง (Rosacea)1 มันบางทีอาจจะเกิดเรื่องยากที่จะดูแลผิวผสมแม้กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ สำหรับการดูแลผิวผสมอย่างเหมาะควร คุณจำเป็นต้องค้นหาสินค้าที่เหมาะสมกันกับภาวะผิวที่ไม่เหมือนกันบนบริเวณใบหน้าของคุณและก็จะต้องเป็นสินค้าที่ไม่ทำให้ผิวของคุณเคืองสิ่งจำเป็นของการจัดการดูแลผิวผสมก็คือการดูแลรักษาผิวอย่างบ่อยๆทั้งยังเวลากลางคืนแล้วก็ตอนกลางวันโดยการทำให้เป็นประจำ ครีมกันแดด นี่แสดงว่าคุณควรจะใช้สินค้าประเภทเดียวกัน 1-2 ครั้งต่อวันโดยตลอดตรงเวลาอย่างต่ำ 1 เดือนเพื่อผิวของคุณมีความเคยชินกับกิจวัตรประจำวันการดูแลรักษาผิวนี้ในการดูแลผิวผสม คุณจำเป็นที่จะย้ำไปที่การดูแลภาวะผิวทั้งสองแบบ คุณควรต้องเพิ่มความชื้นรอบๆที่แห้งของบริเวณใบหน้าแล้วก็ลดน้ำมันส่วนเกินในรอบๆที่มันบ่อยแล้ว รอบๆที่มันบนผิวหน้าของคุณเป็นรอบๆครั้งโซน (หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก และก็คาง) แทนที่จะดูแลรักษาผิวหน้าอีกทั้งบริเวณใบหน้าด้วยสินค้าประเภทเดียว คุณต้องดูแลผิวเฉพาะจุดไป ซึ่งก็ขึ้นกับภาวะผิวของคุณถ้าเกิดคุณกำลังเริ่มจะมีสิวอักเสบที่หน้าผากรวมทั้งคุณทราบดีว่ารอบๆหน้าผากของคุณชอบมัน ให้ใช้การดูแลเฉพาะจุดเพื่อจัดแจงกับความมันที่รอบๆหน้าผาก หากผิวที่แก้มของคุณมีทิศทางว่าจะแห้งและก็ระคาย ให้ใช้สินค้าเพิ่มความชื้นเพียงแค่รอบๆนั้นคลีนเซอร์ที่ทำมาจากน้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าวและก็น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะกอกนั้นเยี่ยมที่สุดสำหรับผิวแห้งแล้วก็ผิวแห้งมากมาย และก็จะใช้ได้ดีเฉพาะใบหน้าจุดที่แห้งถ้าเกิดคุณมีผิวผสมถึงแม้ว่าคลีนเซอร์แบบน้ำมันนั้นจะไม่รังแกผิวของคุณ แม้กระนั้นก็ไม่ชี้แนะให้ใช้กับผิวมัน คุณอาจควรต้องทดสอบการใช้คลีนเซอร์แบบน้ำมันหลายแบบก่อน หากคุณเริ่มมีสิวอักเสบหรือมีปฏิกิริยาแพ้ คุณอาจควรต้องทดลองใช้คลีนเซอร์อื่นๆที่มีส่วนผสมสำหรับเพื่อการดูแลผิวผสมของคุณ ให้เริ่มจากคลีนเซอร์สูตรน้ำผึ้งธรรมชาติด

ผิวผสม เกิดจากเหตุผลด้านพันธุกรรมหรือความผิดปกติของฮอร์โมน

1.คุณจำเป็นต้องใช้น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ กลีเซอรีนจากพืช ½ ถ้วย เกิดจากเหตุผลด้านพันธุกรรมหรือความผิดปกติของฮอร์โมนหาพอดีห้องอาหารเพื่อสุขภาพส่วนมาก) สบู่เหลว 2 ช้อนโต๊ะ

ผสมส่วนประกอบให้ถูกกันในถ้วยใบใหญ่ เทส่วนประกอบลงไปในขวดไม่เพื่อจะได้ใช้ง่าย

2.ทาคลีนเซอร์ในจำนวนน้อยๆที่บริเวณใบหน้าแล้วก็คอ ใช้นิ้วมือนวดให้ซึมไปสู่ผิวหน้าตรงเวลา 30 วินาที -1 นาที นี่จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกหรือสิ่งหลงเหลือที่อยู่บนบริเวณใบหน้า เมื่อใช้คลีนเซอร์เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ให้ล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำอุ่นรวมทั้งใช้ผ้าขนหนูซึมซับให้แห้ง

3.คุณสามารถทดลองใช้คลีนเซอร์แบบน้ำมันโดยใช้น้ำมันที่ทำจากมะพร้าวหรือน้ำมันที่สกัดจากมะกอกและก็ใช้ผ้าขนหนูอุ่นๆให้มองหาน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าวหรือน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอกแบบออร์แกนิคบริสุทธิ์เพื่อมั่นใจว่าคุณใช้สินค้าธรรมชาติที่บริสุทธิ์ที่สุดบนบริเวณใบหน้า8

4.ใช้ปลายนิ้วมือนวดน้ำมันที่บริเวณใบหน้าตรงเวลา 30 วินาที แล้วต่อจากนั้นชุบผ้าขนหนูในน้ำอุ่นและก็ประคบผ้าขนหนูอุ่นๆที่บริเวณใบหน้า ให้น้ำมันอยู่บนบริเวณใบหน้าราว 15-30 วินาทีรวมทั้งเบาๆใช้ผ้าเช็ดน้ำมันออก เลี่ยงการเช็ดที่บริเวณใบหน้า เพียงแค่เบาๆเช็ดน้ำมันออกเพียงแค่นั้น.

ผิวผสม เนื่องจากปัจจัยหลักของอาการจะเกิดจากพันธุกรรม

1.การขัดผิวหน้านั้นไม่ชี้แนะสำหรับคนที่มีผิวเคืองง่ายเนื่องจากปัจจัยหลักของอาการเกิดจากพันธุกรรม ให้ขัดที่บริเวณใบหน้าเบาๆสำหรับเพื่อการทดลองดูกร ให้ทดลองกับผิวรอบๆเล็กๆถ้าเกิดมันไม่รังแกหรือทำให้ผิวเคือง คุณก็สามารถใช้ขัดหน้าทั้งยังบริเวณใบหน้าได้

2.สามารถครับทำเองส่วนมากจะใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากว่ามันสุภาพต่อผิวกว่าน้ำตาลทรายขาว ติดต่อLawara คุณสามารถใช้น้ำมันธรรมชาติตัวอย่างเช่น น้ำมันพิมเสน น้ำมันหนทรี และก็น้ำมันลาเวนเดอร์ เพื่อผิวของคุณส่องแสงอย่างมีร่างกายแข็งแรง

3.สำหรับผิวเคืองง่าย ให้ผสมน้ำตาล 1 ถ้วย ข้าวโอ๊ตบด 1 ถ้วย น้ำผึ้ง ½ ถ้วย เช็ดที่บริเวณใบหน้าตรงเวลา 30 วินาทีจนกระทั่ง 1 นาทีเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วแล้วก็เป็นการสครับผิวอย่างสุภาพ

4.ทำครีมขัดหน้าสำหรับผิวมัน ให้ผสมเกลือทะเล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วก็น้ำมันพิมเสน ทำให้ผิวหนังแฉะก่อนและก็เบาๆทาครีมขัดผิวด้วยนิ้วมือ นวดส่วนประกอบให้เข้าไปในผิวตรงเวลา 30 วินาทีจนกระทั่ง 1 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

5.อีกแนวทางหนึ่งสำหรับในการทำสครับสำหรับขัดผิวหน้า ให้ผสมน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ผงกายุบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ แล้วก็น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาเพื่อเพิ่มคุณค่าเยอะขึ้นเรื่อยๆ ขี้ข้า

ผิวผสม ดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ

1.นี่เป็นสิ่งที่ถูกดื่มน้ำให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการความเหมาะสม ได้ผลลัพธ์ที่ดี และก็สามารถทำเป็นง่ายสุดๆ เบกกิ้งโซดาจะช่วยทุเลาอาการอักเสบของสิวและก็คุ้มครองป้องกันสิวอักเสบในอนาคต มันยังเป็นผุยผงขัดหน้าที่ดีเยี่ยมรวมทั้งจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่สามารถสะสมที่ผิวหน้าของคุณ ใช้เบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนโต๊ะและก็ผสมกับน้ำอุ่นจนถึงเป็นเนื้อข้นๆทาส่วนผสมลงรอบๆผิวหนังที่แห้งรวมทั้งทาแต้มโดยตรงที่รอยด่างดำ สำหรับในการใช้คราวแรกๆให้ปลดปล่อยส่วนประกอบทิ้งเอาไว้ 10-15 นาที เบาๆเพิ่มช่วงเวลาเป็นชั่วโมง และก็จนถึงทิ้งเอาไว้ข้ามคืน เพื่อที่ผิวของคุณจะได้เคยชินกับวิธีการแบบนี้

2.ละลายน้ำมันครั้งทรี: น้ำมันหอมระเหยนั้นมีคุณลักษณะสำหรับในการฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียแล้วก็เป็นการรักษาสิวที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีมากมาย แต่ว่าดังนี้ จำเป็นต้องละลายน้ำมันหนทรีก่อนเนื่องจากมันจะเกิดอันตรายต่อผิวหนังของคุณได้ถ้าหากคุณแต้มไปที่จุดด่างดำโดยตรง สำหรับในการใช้น้ำมันครั้งทรี ให้ผสมหยดน้ำมันครั้งทรี 5-10 หยดกับน้ำ ¼ ถ้วยในถ้วยผสม ใช้สำลีก้อนทาส่วนผสมไปที่รอบๆที่มีทิศทางจะเป็นสิวหรือจุดด่างดำบนบริเวณใบหน้า คุณสามารถทาก่อนลงรองพื้นแล้วก็ทาซ้ำได้ระหว่างวัน

3.น้ำมะนาว: ทรีตเมนต์เฉพาะจุดแนวทางนี้จะใช้สารต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่มีตามธรรมชาติแล้วก็คุณลักษณะสำหรับเพื่อการสมานผิวของน้ำมะนาว ให้ใช้น้ำมะนาวที่คั้นมาใหม่ๆหรือน้ำมะนาวในกล่องที่ซื้อจากร้านขายของชำก็ได้ ใส่น้ำมะนาว 3 ช้อนชาในถ้วยผสมและก็ใช้สำลีก้อนทาที่รอบๆที่มักเป็นสิวหรือจุดด่างดำ ทิ้งเอาไว้ 15 นาทีจนกระทั่งชั่วโมงเพื่อน้ำมะนาวดูดซับไปสู่ผิว

4.ว่านหางจระเข้: ถ้าเกิดคุณมีว่านหางจระเข้ ให้ใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะสำหรับการทุเลาผิวของมัน หั่นมันเป็นชิ้นๆบีบน้ำออกมาจากลำต้นรวมทั้งแต้มที่จุดด่างดำหรือรอบๆที่จะเป็นสิว คุณสามารถทาเจลว่านหางจระเข้ที่ผิวหลายหนต่อวันได้ คุณสามารถหาซื้อเจลว่านหางจระเข้ออร์แกนิคถึงที่เหมาะร้านค้าขายอาหารสุขภาพ มองหาสินค้าว่านหางจระเข้ที่ใส่ส่วนประกอบอื่นเพิ่มบางส่วนหรือเปล่าใส่เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *